940 จำนวนผู้เข้าชม |
ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดี ข้อจำกัด ที่แตกต่างกันออกไป เหมาะกับชิ้นงานแต่ละแบบ ซึ่งในบทความนี้จะแสดงให้เห็นถึงรายละเอียดของวิธีการสกรีนทั้ง 2 รูปแบบนี้ให้คุณได้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น
คุณสมบัติของการสกรีนแต่ละแบบ
งานสกรีน สำหรับสินค้าพรีเมี่ยม ทั้ง 2 ประเภทดังที่กล่าวมาข้างต้น มีรายละเอียดที่คุณควรทราบดังต่อไปนี้
1. Silkscreen
เป็นวิธีการพิมพ์ ที่ใช้วิธีการปาดสีลงบนวัสดุ ตามบล็อคที่ปล่อยให้สีไหลผ่านที่ขึงอยู่บนกรอบไม้สี่เหลี่ยมให้สีลงไปติดอยู่บน วัสดุที่พิมพ์ ซึ่งเป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมอย่างมากเพราะสามารถพิมพ์สีหรือโลโก้ลง บนวัสดุรูปทรงต่างๆ ได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นรูปทรง กลม,เหลี่ยม,แบน หรือรูปทรงอื่นๆ และข้อดีอีกอย่างหนึ่งก็คือวิธีการพิมพ์แบบนี้จะทำให้หมึกพิมพ์สามารถยึดเ กาะบนวัสดุที่พิมพ์ได้หนาแน่นกว่าวิธีการพิมพ์แบบอื่นๆ ทำให้สีที่ได้มีความคมชัด สดใส และติดทนนาน จึงเป็นวิธีการในการพิมพ์งานพรีเมี่ยมได้หลายประเภท แต่ข้อด้อยของการสกรีนด้วยวิธีนี้ก็คือ ความละเอียดของงานอาจไม่ได้ละเอียดมากนัก อย่างเช่นการสกรีนตัวหนังสือเล็กๆที่อาจทำให้เกิดการขาดหายไป หรือไม่ชัดเจน ดังนั้นหากต้องพิมพ์โลโก้หรือสโลแกนที่เป็นตัวหนังสือเล็กๆ อาจจะต้องใช้วิธีการพิมพ์ภาพ อีกรูปแบบหนึ่ง และข้อดีของการสกรีนด้วยวิธีนี้ก็คือ เหมาะสำหรับการพิมพ์งานพรีเมี่ยมได้ตั้งแต่จำนวนน้อย จนถึงมากๆ เพราะยิ่งจำนวนมากต้นทุนจะยิ่งต่ำลง ดังนั้นเจ้าของแบรนด์ที่ต้องการทำของพรีเมี่ยม สำหรับแจกลูกค้าเป็นจำนวนมาก สามารถสั่งพิมพ์โลโก้หรือรูปภาพต่างๆ ด้วยวิธีการนี้เหมาะสมที่สุด
2. Sublimation
เป็นงานสกรีน ที่ใช้เครื่องพิมพ์คอมพิวเตอร์ทำการพิมพ์ลวดลายหรือโลโก้ลงบนกระดาษ จากนั้นค่อยนำสีบนกระดาษไปพิมพ์ภาพผ่านด้วยความร้อนลงบนตัวของวัต ถุของพรีเมี่ยม อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งข้อดีของการใช้วิธีการสกรีนแบบนี้ก็คือสีที่สกรีนมีความทนทานสูง ละเอียด ไล่เฉดสีได้มากกว่า เนื้อผ้าที่สกรีนสีลงไปแม้จะทำการซักรีดหลายครั้งสีก็ยังคงติดทนอยู่ อีกทั้งยังสามารถสกรีนลงบนวัสดุที่หลากหลาย เหมาะสำหรับเจ้าของแบรนด์ที่ต้องการพิมพ์งานของพรีเมี่ยมที่ต้องการความคมชัดหรือสีสันมากเป็นพิเศษ แต่การพิมพ์ด้วยวิธีนี้ก็จะมีราคาค่อนข้างสูงกว่าแบบ Silkscreen และต้องพิมพ์จำนวนเยอะๆ เพราะการเดินเครื่องกว่าจะได้สีที่สวยงามออกมาจนเป็นที่น่าพอใจ จะต้องมีการสูญเสียค่อนข้างเยอะในช่วงแรกของการผลิต จึงทำให้วิธีนี้ถ้าผลิตจำนวนไม่มาก ราคาจะค่อนข้างสูง